คอนกรีตที่ใช้ทั่วไป มีอยู่หลายเกรด ตั้งแต่กำลัง 180,210,240,320,450 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร (หรือ 18,21,24,32 และ 45เมกกะปาสคาล) สำหรับคอนกรีตที่ใช่กันทั่วไป คอนกรีตสมรรถนะสูง (High-Performance Concrete)
แต่ในปัจจุบันคอนกรีตได้รับการพัฒนาให้มีกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆในวงการก่อสร้างในประเทศไทยเราก็เช่นเดียวกัน ได้คำนวณออกแบบโดยเพิ่มกำลังอัดประลัย (fc’) ขึ้นได้ถึง 600 กก./ซม2 และกำลังจะเพิ่มขึ้นถึง 100 กก./ซม2 ในไม่ช้า นอกจากเรื่องกำลังแล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆอีกด้วย สุดท้ายจะตกหนักที่ผู้ควบคุมงานว่าจะควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอได้อย่างไร ฉะนั้น ต้องอาศัยความช่างสังเกตความเอาใจใส่ของผู้ควบคุมงาน
ไม่ปล่อยปละละเลยให้ขึ้นอยู่กับคนงาน เช่น สังเกตส่วนผสม หรือความข้นเหลว (Consistency) สี ว่า ผิดปกติหรือไม่ หากคอนกรีตสดนั้นมีความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น ผิดจากส่วนอื่นๆ ที่ผ่านมาด้วยดีเป็นอย่างมากให้ปรึกษาวิศวกรผู้ควบคุมงานอาจจะต้องระงับการใช้ก็ได้ อย่างไรก็ดีจะต้องบันทึกสิ่งผิดปกติดังกล่าวไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะ ถ้าจะอนุญาตให้เท ซึ่งเมื่อถอดแบบแล้วให้สังเกตเนื้อคอนกรีตอีกครั้ง หากสงสัยต้องทดสอบทันที จะดูผลทดสอบคอนกรีตจากห้องทดลองอย่างเดียวไม่พอ
เพราะบางครั้งผิดพลาดได้เหมือนกัน วิธีทดสอบมีตั้งแต่ใช้วิธี Schmidth Hammer, Ultra Sound และ Coring วิธีหลังจะให้ผลที่แน่นนอนกว่า หากเห็นว่าคอนกรีตมีกำลังต่ำจนอาจเกิดอันตรายได้ก็ควรจะต้องทุบทิ้งแล้วหล่อใหม่ ไม่ควรเสี่ยงเก็บไว้เป็นอันขาด โดยเฉพาะถ้าเป็นเสาชั้นล่างๆ ของอาคารหลายๆชั้น และเนื่องจากคอนกรีตชนิด HPC นี้ ยังเป็นของใหม่อยู่ จึงควรติดตามหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลาเพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า คอนกรีตที่มีคุณภาพดี หมายถึง คอนกรีต ที่มีส่วนผสมพอดีๆสามารถนำไปเทลงแบบ และใช้เครื่องเขย่าทำให้แน่นได้ง่าย และเมื่อแข็งตัวแล้ว การที่จะได้คอนกรีตดีจะต้องมีการเตรียมการที่ดีนับตั้งแต่ก่อนเท และภายหลัง เทคอนกรีต แล้ว
แต่ในปัจจุบันคอนกรีตได้รับการพัฒนาให้มีกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆในวงการก่อสร้างในประเทศไทยเราก็เช่นเดียวกัน ได้คำนวณออกแบบโดยเพิ่มกำลังอัดประลัย (fc’) ขึ้นได้ถึง 600 กก./ซม2 และกำลังจะเพิ่มขึ้นถึง 100 กก./ซม2 ในไม่ช้า นอกจากเรื่องกำลังแล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆอีกด้วย สุดท้ายจะตกหนักที่ผู้ควบคุมงานว่าจะควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอได้อย่างไร ฉะนั้น ต้องอาศัยความช่างสังเกตความเอาใจใส่ของผู้ควบคุมงาน
ไม่ปล่อยปละละเลยให้ขึ้นอยู่กับคนงาน เช่น สังเกตส่วนผสม หรือความข้นเหลว (Consistency) สี ว่า ผิดปกติหรือไม่ หากคอนกรีตสดนั้นมีความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น ผิดจากส่วนอื่นๆ ที่ผ่านมาด้วยดีเป็นอย่างมากให้ปรึกษาวิศวกรผู้ควบคุมงานอาจจะต้องระงับการใช้ก็ได้ อย่างไรก็ดีจะต้องบันทึกสิ่งผิดปกติดังกล่าวไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะ ถ้าจะอนุญาตให้เท ซึ่งเมื่อถอดแบบแล้วให้สังเกตเนื้อคอนกรีตอีกครั้ง หากสงสัยต้องทดสอบทันที จะดูผลทดสอบคอนกรีตจากห้องทดลองอย่างเดียวไม่พอ
เพราะบางครั้งผิดพลาดได้เหมือนกัน วิธีทดสอบมีตั้งแต่ใช้วิธี Schmidth Hammer, Ultra Sound และ Coring วิธีหลังจะให้ผลที่แน่นนอนกว่า หากเห็นว่าคอนกรีตมีกำลังต่ำจนอาจเกิดอันตรายได้ก็ควรจะต้องทุบทิ้งแล้วหล่อใหม่ ไม่ควรเสี่ยงเก็บไว้เป็นอันขาด โดยเฉพาะถ้าเป็นเสาชั้นล่างๆ ของอาคารหลายๆชั้น และเนื่องจากคอนกรีตชนิด HPC นี้ ยังเป็นของใหม่อยู่ จึงควรติดตามหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลาเพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า คอนกรีตที่มีคุณภาพดี หมายถึง คอนกรีต ที่มีส่วนผสมพอดีๆสามารถนำไปเทลงแบบ และใช้เครื่องเขย่าทำให้แน่นได้ง่าย และเมื่อแข็งตัวแล้ว การที่จะได้คอนกรีตดีจะต้องมีการเตรียมการที่ดีนับตั้งแต่ก่อนเท และภายหลัง เทคอนกรีต แล้ว