หน้างานที่เกิดปัญหาการสึก กร่อน ของผิวหน้าคอนกรีตนี้ ที่หน้างานคลอง8 เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก แบ่งเททีละ1เลน ความกว้างต่อเลน 3.0 เมตร หนา 15 เซนติเมตรใช้คอนกรีตกำลังอัด240กก./ตร.ซม. รหัสสินค้า01-11124cซึ่งในช่วงแรกของการเทเป็นการส่งโดย แพล้นท์ ธัญบุรี คลอง11 ทั้งสิ้น (ช่วงแรกของการเทของแพล้นท์ธัญบุรี 11คือวันที่ 24.6.57จำนวน 54คิว 26.6.57จำนวน 54.5คิว 28.6.57จำนวน 43คิว)
แต่ช่วงหลังทางหน้างานเพิ่มแบบถนนเข้ามาอีกซึ่งจำนวนรถของแพล้นท์ธัญบุรี คลอง11 มีไม่ทันต่อปริมาณงานที่มีมากของหน้างานได้ (ประมาณ 200 เมตร)ใช้คอนกรีตประมาณ 100 ลบ.ม. ดังนั้นจึงมีความจำเป็นจะต้องให้แพล้นท์คลองลำลูกกา7
ช่วยในการผลิตและขนส่งเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าและเนื้อคอนกรีตที่เป็นเนื้อเดียวกันก่อนการเซ็ตตัว
ปัญหาคือในช่วงแรกของการเท กล่าวคือ คลอง11 เป็นผู้ส่งทั้งหมด ถนนเริ่มมีการสึกกร่อน เริ่มเห็นเม็ดหินโผล่ขึ้นมาตามผิวหน้าของคอนกรีต ทุกแผงที่เท (บริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษา13) ซึ่งสอบถามผู้รับเหมาและพนักงานของบจก.วี.พี.คอนกรีตแล้วปรากฏว่าวันที่ลำเลียงคอนกรีตไม่มีฝนตกแต่อย่างใด ดังนั้นจึงตัดประเด็นเรื่องน้ำส่วนเกิน w/c ในส่วนของน้ำฝน ซึ่งส่งผลต่อผิวหน้าและกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตโดยตรง จึงเหลืออีก 4 ประเด็นคือ
1.อายุของคอนกรีตที่น้อยกว่าค่ามาตรฐานในการใช้งาน กล่าวคือ คอนกรีตถูกแรงกดและการเสียดสีในขณะที่อายุของคอนกรีตประมาณ24ชม. จึงทำให้เกิดการสึกกร่อนของผิวหน้าอย่างรวดเร็วหลังจากคอนกรีตเซ็ทตัว (ถนนเริ่มสึกกร่อน2เดือนหลังจากคอนกรีตเซ็ทตัว)
2.ส่วนผสมของคอนกรีตไม่ได้มาตรฐานซึ่งมีหลายวัสดุที่เป็นปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดการสึกกร่อนของพื้นผิวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนี้
- ซีเมนต์ การเสื่อมคุณภาพอันเกิดจาก ระยะเวลาการกักเก็บ ภาชนะการบรรจุ อุณหภูมิภายใน ฯลฯ
- หิน ขนาดคละไม่ได้ ฝุ่นและสิ่งแปลกปลอม ฯลฯ
- ทราย ขนาดคละไม่ได้ ฝุ่นและสิ่งแปลกปลอม ฯลฯ
- น้ำสำหรับผสมคอนกรีต ค่า pH สิ่งแปลกปลอม ฯลฯ
- น้ำยาผสมคอนกรีต (ในขณะนั้นใช้น้ำยานีโอเทค type D&G) การเสื่อมคุณภาพ วัตถุดิบไม่ได้มาตรฐาน
3.รับน้ำหนักแบกทานเกินกำลังอัดที่สามารถรับได้ (กำลังรับแรกอัดไม่สอดคล้องกับแรงกระทำที่เกิดขึ้นจริง)
4.น้ำส่วนเกินจากหน้างาน หรือ พนักงานขับรถที่เพิ่มส่วนผสมของน้ำ เพื่อการทำงานที่สะดวกรวดเร็วและงานต่อการลากดึงคอนกรีต
เนื่องจากแบบทางหน้างานมี ประมาณ100เมตร
ช่วยในการผลิตและขนส่งเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าและเนื้อคอนกรีตที่เป็นเนื้อเดียวกันก่อนการเซ็ตตัว
ปัญหาคือในช่วงแรกของการเท กล่าวคือ คลอง11 เป็นผู้ส่งทั้งหมด ถนนเริ่มมีการสึกกร่อน เริ่มเห็นเม็ดหินโผล่ขึ้นมาตามผิวหน้าของคอนกรีต ทุกแผงที่เท (บริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษา13) ซึ่งสอบถามผู้รับเหมาและพนักงานของบจก.วี.พี.คอนกรีตแล้วปรากฏว่าวันที่ลำเลียงคอนกรีตไม่มีฝนตกแต่อย่างใด ดังนั้นจึงตัดประเด็นเรื่องน้ำส่วนเกิน w/c ในส่วนของน้ำฝน ซึ่งส่งผลต่อผิวหน้าและกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตโดยตรง จึงเหลืออีก 4 ประเด็นคือ
1.อายุของคอนกรีตที่น้อยกว่าค่ามาตรฐานในการใช้งาน กล่าวคือ คอนกรีตถูกแรงกดและการเสียดสีในขณะที่อายุของคอนกรีตประมาณ24ชม. จึงทำให้เกิดการสึกกร่อนของผิวหน้าอย่างรวดเร็วหลังจากคอนกรีตเซ็ทตัว (ถนนเริ่มสึกกร่อน2เดือนหลังจากคอนกรีตเซ็ทตัว)
2.ส่วนผสมของคอนกรีตไม่ได้มาตรฐานซึ่งมีหลายวัสดุที่เป็นปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดการสึกกร่อนของพื้นผิวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนี้
- ซีเมนต์ การเสื่อมคุณภาพอันเกิดจาก ระยะเวลาการกักเก็บ ภาชนะการบรรจุ อุณหภูมิภายใน ฯลฯ
- หิน ขนาดคละไม่ได้ ฝุ่นและสิ่งแปลกปลอม ฯลฯ
- ทราย ขนาดคละไม่ได้ ฝุ่นและสิ่งแปลกปลอม ฯลฯ
- น้ำสำหรับผสมคอนกรีต ค่า pH สิ่งแปลกปลอม ฯลฯ
- น้ำยาผสมคอนกรีต (ในขณะนั้นใช้น้ำยานีโอเทค type D&G) การเสื่อมคุณภาพ วัตถุดิบไม่ได้มาตรฐาน
3.รับน้ำหนักแบกทานเกินกำลังอัดที่สามารถรับได้ (กำลังรับแรกอัดไม่สอดคล้องกับแรงกระทำที่เกิดขึ้นจริง)
4.น้ำส่วนเกินจากหน้างาน หรือ พนักงานขับรถที่เพิ่มส่วนผสมของน้ำ เพื่อการทำงานที่สะดวกรวดเร็วและงานต่อการลากดึงคอนกรีต
ก่อนการซ่อมแซม
หลังการซ่อมแซม