น้ำท่วมพื้นดาดฟ้า ระบายไม่ทัน เป็นอีกปัญหาหน้าฝนที่ไม่ร้ายแรงแต่ก็ไม่ควรเพิกเฉย ส่วนใหญ่จะสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีที่ไม่ยุ่งยากมากนัก
ปัญหาเรื่องบ้านในหน้าฝน ส่วนใหญ่มักจะหนีไม่พ้นเรื่องรั่วๆ ตามหลังคา ผนัง ประตูหน้าต่างไปจนถึงน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน ซึ่งอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับพื้นชั้นล่างเท่านั้น เพราะบ้านที่มีดาดฟ้าก็สามารถเกิดปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันหรือระบายไม่ทันจนน้ำท่วมนองพื้นได้เช่นกัน ส่วนวิธีแก้ไขจะยากง่ายเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหา
เมื่อพื้นดาดฟ้าเกิดปัญหาน้ำท่วม ทางระบายน้ำอุดตันหรือติดขัด อันดับแรกให้สังเกตที่ตำแหน่งท่อระบายน้ำว่ามีการอุดตันหรือไม่ เนื่องจากดาดฟ้าเป็นส่วนที่อยู่บนสุดของบ้าน เช่นเดียวกับหลังคา ทำให้มีเศษวัสดุ ใบไม้กิ่งไม้มากองอุดทางระบายน้ำได้ง่าย เจ้าของบ้านจึงควรเก็บกวาดออกอยู่สม่ำเสมอ และจะให้ดีควรใช้ฝาปิดท่อระบายน้ำแบบ Roof Drain ซึ่งมีลักษณะเป็นถ้วยตะแกรงทรงคว่ำ หากด้านข้างของ Roof Drain เกิดการอุดตัน ส่วนบนของตะแกรงก็ยังคงทำหน้าที่ระบายน้ำได้ต่อไป
ภาพ: Floor Drain มีลักษณะเป็นตะแกรงรูปหมวกคว่ำ เหมาะกับการติดตั้งบนดาดฟ้า ระเบียง
สำหรับพื้นที่ดาดฟ้าที่มีขนาดใหญ่ ควรพิจารณาด้วยว่าจุดท่อระบายน้ำดาดฟ้ามีจำนวนเพียงพอหรือไม่ โดยแนะนำให้มี 1 จุด ต่อพื้นที่ 30-40 ตารางเมตร หากจุดท่อระบายน้ำมีไม่เพียงพอ แนะนำให้ติดตั้งเพิ่ม ทั้งนี้ เจ้าของบ้านอาจทำระบบน้ำล้น หรือที่เรียกว่า Over Flow ในลักษณะของท่อ PVC หรือช่องโลหะ หรืออาจเป็นช่องเจาะรูคอนกรีตเพิ่มเติมบนดาดฟ้าด้วย เผื่อกรณีที่ทางระบายน้ำอุดตันหรือระบายลงท่อได้ไม่ทัน น้ำจะมายังจุดน้ำล้นที่ใกล้กันทำให้เจ้าของบ้านสังเกตเห็นเพื่อจะได้ทำการตรวจสอบและขจัดเศษวัสดุอุดตันอีกครั้ง
ปัญหาดาดฟ้าน้ำท่วมขังโดยภาพรวมอาจดูไม่ค่อยร้ายแรง รวมถึงวิธีแก้ไขก็ไม่ยุ่งยากมากนัก เมื่อเทียบกับปัญหาเรื่องอื่นๆ ในฤดูฝนที่น่าหนักใจกว่ามากอย่างหลังคารั่ว หรือพื้นบ้านต่ำกว่าถนนทำให้น้ำระบายไม่ทัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมที่พื้นดาดฟ้านับเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาพื้นดาดฟ้ารั่วซึม ที่อาจตามมาภายหลัง เจ้าของบ้านจึงไม่ควรชะล่าใจและปล่อยปละละเลยนานจนเกินไป
ปัญหาเรื่องบ้านในหน้าฝน ส่วนใหญ่มักจะหนีไม่พ้นเรื่องรั่วๆ ตามหลังคา ผนัง ประตูหน้าต่างไปจนถึงน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน ซึ่งอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับพื้นชั้นล่างเท่านั้น เพราะบ้านที่มีดาดฟ้าก็สามารถเกิดปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันหรือระบายไม่ทันจนน้ำท่วมนองพื้นได้เช่นกัน ส่วนวิธีแก้ไขจะยากง่ายเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหา
เมื่อพื้นดาดฟ้าเกิดปัญหาน้ำท่วม ทางระบายน้ำอุดตันหรือติดขัด อันดับแรกให้สังเกตที่ตำแหน่งท่อระบายน้ำว่ามีการอุดตันหรือไม่ เนื่องจากดาดฟ้าเป็นส่วนที่อยู่บนสุดของบ้าน เช่นเดียวกับหลังคา ทำให้มีเศษวัสดุ ใบไม้กิ่งไม้มากองอุดทางระบายน้ำได้ง่าย เจ้าของบ้านจึงควรเก็บกวาดออกอยู่สม่ำเสมอ และจะให้ดีควรใช้ฝาปิดท่อระบายน้ำแบบ Roof Drain ซึ่งมีลักษณะเป็นถ้วยตะแกรงทรงคว่ำ หากด้านข้างของ Roof Drain เกิดการอุดตัน ส่วนบนของตะแกรงก็ยังคงทำหน้าที่ระบายน้ำได้ต่อไป
![]() |
ภาพ: หากท่อระบายน้ำบนดาดฟ้า ติดตั้งตะแกรงที่มีลักษณะแบนราบ จะมีโอกาสอุดตันได้ง่าย |
ภาพ: Floor Drain มีลักษณะเป็นตะแกรงรูปหมวกคว่ำ เหมาะกับการติดตั้งบนดาดฟ้า ระเบียง
สำหรับพื้นที่ดาดฟ้าที่มีขนาดใหญ่ ควรพิจารณาด้วยว่าจุดท่อระบายน้ำดาดฟ้ามีจำนวนเพียงพอหรือไม่ โดยแนะนำให้มี 1 จุด ต่อพื้นที่ 30-40 ตารางเมตร หากจุดท่อระบายน้ำมีไม่เพียงพอ แนะนำให้ติดตั้งเพิ่ม ทั้งนี้ เจ้าของบ้านอาจทำระบบน้ำล้น หรือที่เรียกว่า Over Flow ในลักษณะของท่อ PVC หรือช่องโลหะ หรืออาจเป็นช่องเจาะรูคอนกรีตเพิ่มเติมบนดาดฟ้าด้วย เผื่อกรณีที่ทางระบายน้ำอุดตันหรือระบายลงท่อได้ไม่ทัน น้ำจะมายังจุดน้ำล้นที่ใกล้กันทำให้เจ้าของบ้านสังเกตเห็นเพื่อจะได้ทำการตรวจสอบและขจัดเศษวัสดุอุดตันอีกครั้ง
![]() |
ภาพ: ตัวอย่างการทำ Over Flow |
ปัญหาดาดฟ้าน้ำท่วมขังโดยภาพรวมอาจดูไม่ค่อยร้ายแรง รวมถึงวิธีแก้ไขก็ไม่ยุ่งยากมากนัก เมื่อเทียบกับปัญหาเรื่องอื่นๆ ในฤดูฝนที่น่าหนักใจกว่ามากอย่างหลังคารั่ว หรือพื้นบ้านต่ำกว่าถนนทำให้น้ำระบายไม่ทัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมที่พื้นดาดฟ้านับเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาพื้นดาดฟ้ารั่วซึม ที่อาจตามมาภายหลัง เจ้าของบ้านจึงไม่ควรชะล่าใจและปล่อยปละละเลยนานจนเกินไป