เพราะมีผลต่อความสมบูรณ์ของบ้านตามที่เราคาดหวังไว้ ที่สำคัญเราจะต้องพูดคุยติดต่อกับผู้รับเหมาและทีมช่างอย่างน้อย 3-6 เดือน หรืออาจจะ 1 ถึง 2 ปีตลอดระยะเวลาการก่อสร้างบ้าน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจคัดเลือกผู้รับเหมาจึงควรพิจารณาข้อมูลในด้านต่าง ๆ เพื่อให้งานก่อสร้างบ้านราบรื่นเสร็จสมบูรณ์ด้วยดี รวมทั้งช่วยป้องกันปัญหาความยุ่งยากที่อาจเกิดขี้นตามมาในภายหลังด้วย
1. ผู้รับเหมาต้องเชี่ยวชาญงานก่อสร้างบ้าน
ผู้รับเหมาก่อสร้างแต่ละรายมีประสบการณ์ในงานก่อสร้างแตกต่างกัน ตั้งแต่งานก่อสร้างที่ไม่มีความซับซ้อนมากนักอย่างเช่น อาคารพาณิชย์ (ตึกแถว) หรือ อพาร์ทเมนต์ขนาดเล็กให้เช่า ไปจนถึงงานก่อสร้างที่มีความซับซ้อนของโครงสร้างและงานระบบอาคาร จำพวกอาคารสูง ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ ดังนั้น การเลือกผู้รับเหมามาสร้างบ้านซึ่งนอกจากพื้นฐานเรื่องความแข็งแรงแล้ว ยังมีรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะงานตกแต่งปิดผิวเพื่อความสวยงาม จึงควรพิจารณาว่าผู้รับเหมามีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างบ้านมากน้อยเพียงใด บ้านที่เคยก่อสร้างเป็นบ้านในโครงการหรือเป็นบ้านที่สร้างบนที่ดินส่วนตัว และถ้าเคยก่อสร้างแต่บ้านในโครงการ ยังมีโครงการหลายระดับต่างมาตรฐานอีก ความละเอียดในงานก่อสร้างจะแตกต่างกันมากทีเดียว
![]() |
ภาพ: งานก่อสร้างบ้านโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่ผู้รับเหมาส่วนใหญ่เชี่ยวชาญ |
![]() | ||
ภาพ: ผู้รับเหมาที่เคยรับงานก่อสร้างบ้านโครงการกับบ้านที่สร้างบนที่ดินส่วนตัว มีความละเอียดในงานก่อสร้างต่างกัน ขึ้นอยู่กับมาตรฐานงานโครงการด้วย | สถานที่ (ภาพบน) Muay House |
นอกจากนี้ ควรพิจารณารูปแบบงานโครงสร้างที่ถนัดด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก โครงสร้างเหล็ก หรือ โครงสร้างไม้ เนื่องจากมีวิธีการสร้างบ้านเฉพาะทางแตกต่างกันไป ซึ่งหากเราเลือกใช้ผู้รับเหมาตามงานที่ถนัดงานก็มีโอกาสออกมาตรงตามใจเรา และในระหว่างขั้นตอนการสร้างบ้านสามารถลงรายละเอียดทางเทคนิคได้ลึกกว่า รวมทั้งปัญหาระหว่างการก่อสร้างก็จะน้อยลงตามไปด้วย
2. ผู้รับเหมามีผลงานให้ดูจริง ตรวจสอบได้ มีคนรับรอง
เมื่อเราติดต่อหาผู้รับเหมาแต่ละรายได้แล้ว ก่อนตัดสินใจเลือกและลงมือเซ็นสัญญา เราควรขอดูผลงานที่ผ่านมาของผู้รับเหมา อาจเป็นแฟ้มรูปภาพสะสมผลงาน หรือขอดูผลงานบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว โดยสามารถสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้จากเจ้าของบ้านที่เคยใช้บริการมาก่อน วิธีนี้เป็นวิธีที่มีโอกาสจะได้ผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้ และมีผลงานดี เพราะมีคนช่วยการันตีผลงานให้ และช่วยเล่ารายละเอียดการทำงานของผู้รับเหมารายนั้นว่าเป็นอย่างไร ช่างถนัดงานอะไรบ้าง มาตรฐานงานก่อสร้างของช่างอยู่ในระดับไหน มีวิธีการทำงานเพื่อควบคุมเวลา คุณภาพงาน และงบประมาณอย่างไร ทำงานเรียบร้อยมีระเบียบหรือไม่ มีการรับประกันผลงานหลังจากก่อสร้างเสร็จแล้วอย่างไรบ้าง รวมไปถึงมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาอะไรระหว่างก่อสร้างบ้าง เราจะได้เตรียมตัวรับมือเอาไว้ตั้งแต่ต้น
อย่างไรก็ตาม ความพึงพอใจในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงมาตรฐานงานก่อสร้างของเจ้าของบ้านแต่ละคนอาจแตกต่างกัน เช่น บางคนต้องการงานก่อสร้างเรียบร้อยได้คุณภาพ ถึงแม้เวลาก่อสร้างจะล่าช้าบ้าง บางคนจำเป็นต้องให้บ้านสร้างเสร็จในเวลาที่กำหนด ควบคุมงบประมาณได้ดี งานก่อสร้างอาจบกพร่องไปบ้างก็ยอมรับได้ เป็นต้น ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงควรมีเกณฑ์ในการตัดสินใจคัดเลือกผู้รับเหมาจากข้อมูลที่ได้สอบถามด้วย
3. ผู้รับเหมามีทัศนคติในการทำงานตรงกับเรา
โดยปกติเมื่อเราอยู่ในระหว่างเจรจาติดต่อหาผู้รับเหมาก่อนตัดสินใจเลือก เราสามารถพูดคุยกับผู้รับเหมา 2-3 รายได้ เพื่อพิจารณาดูทัศนคติในการทำงาน และดูว่าผู้รับเหมามองเห็นภาพงานก่อสร้างเป็นภาพเดียวกันกับเราหรือไม่ โดยพูดคุยตกลงกันในเรื่องแนวทางการทำงาน ระยะเวลาในการทำงาน เงื่อนไขของแต่ละฝ่าย รวมทั้งราคาค่าก่อสร้างด้วย
![]() |
ภาพ: หน้างานก่อสร้างที่เตรียมงานอย่างเป็นระบบ และเก็บกองวัสดุอุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบ |
4. ผู้รับเหมามีมาตรฐานในการทำงาน
สำหรับมาตรฐานในการทำงานของผู้รับเหมานั้น เจ้าของบ้านสามารถสังเกตได้ตั้งแรกเริ่มติดต่อนัดหมายทั้งการพูดคุย การรักษาคำพูด ตรงต่อเวลา ความแม่นยำในข้อมูล รวมไปถึงการนำเสนอเอกสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น “เอกสารเสนอราคาค่าก่อสร้าง” ซึ่งผู้รับเหมาอาจจัดทำขึ้นเองทั้งหมด หรือกรอกในฟอร์มเอกสารราคากลาง (BOQ : Bills of Quantity) ที่เจ้าของบ้านเตรียมไว้ “เอกสารสัญญาว่าจ้าง” ซึ่งจะแสดงรายละเอียดการแบ่งงวดงาน และเงื่อนไขในการว่าจ้างต่าง ๆ
![]() |
ภาพ: ตัวอย่าง BOQ ที่แสดงปริมาณงานและประมาณราคาไว้แล้ว และ ตัวอย่างแบบฟอร์มเปล่า ที่มีปริมาณงาน แต่เว้นช่องราคาค่าวัสดุก่อสร้าง และค่าแรงไว้ให้ผู้รับเหมากรอก |
ตลอดจนการรับประกันผลงานหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ควรมีเอกสารแผนการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนแล้วเสร็จ รวมถึงรายชื่อผู้ประสานงานและทีมงานก่อสร้าง (ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง โฟร์แมน หัวหน้าช่าง) ด้วย เอกสารทั้งหมดนี้แสดงถึงมาตรฐานและความน่าเชื่อถือในการทำงานที่จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถพิจารณาและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือกผู้รับเหมารายไหน โดยจะถูกใช้เป็นข้อตกลงทางกฎหมายร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ราคาค่าก่อสร้างที่ผู้รับเหมาเสนอมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณา ซึ่งหากยังอยู่ในงบประมาณที่ควบคุมได้ แนวทางที่กล่าวมาจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจคัดเลือกผู้รับเหมาที่เหมาะสม เพื่อให้งานก่อสร้างบ้านราบรื่นและเสร็จสมบูรณ์ตามที่ได้ตั้งใจ
ขอบคุณที่มา :: scgbuildingmaterials