การซ่อมโดยวิธีนี้เหมาะกับงานซ่อมขนาดใหญ่ งานซ่อมใต้น้ำ หรืองานที่เทคอนกรีตได้ยาก ใช้ได้ผลกับงานซ่อมอาคารของเขื่อน อุโมงค์ กำแพงกันดิน ตอหม้อสะพาน เสา และคานของอาคารหรือสะพาน
วิธีซ่อมให้ใช้หินที่สะอาดและมีความลดหลั่นพอดี อันให้แน่นบริเวณที่จะซ่อมโดยให้มีช่องว่าง (void) ประมาณ 35 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และมีแบบปิดกั้น แล้วจะต้องทำให้หินเปียกหรือถ้าทำให้จมอยู่ใต้น้ำได้จะยิ่งดี จากนั้นจึงปั๊มอัดมอร์ต้าเข้าไประหว่างช่องว่างของหิน โดยใช้แรงดันต่ำ มอร์ต้าที่อัดเข้าไปจะไปไล่น้ำออกและเข้าไปแทนที่ ทำให้คอนกรีตแน่นและมีหินผสมอยู่ในปริมาณสูง จากการทดลองพบว่าคอนกรีตชนิดนี้หดตัวน้อยกว่าคอนกรีตธรรมดา ซึ่งใช้ปูนซีเมนต์เท่ากัน
จึงสามารถช่วยให้การแตกร้าวอันเนื่องมาจากการหดตัวลดลงและสามารถยึดเหนี่ยวกับคอนกรีตเก่าได้ดี แม้ว่าคอนกรีตชนิดนี้จะสร้างกำลังขึ้นช้ากว่าคอนกรีตธรรมดาก็ตาม แต่จะมีกลังเท่ากันเมื่อมีอายุครบ 90 วันไปแล้ว ข้อควรระวังก็คือแบบจะต้องมั่นคงไม่มีรอยรั่วและด้านบนของแบบจะต้องมีช่องให้อากาศถ่ายเทออกได้
ทรายที่ใช้ผสมมอร์ต้าจะต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับทรายที่ใช้ทำคอนกรีต ควรมีขนาดผ่านตะแกรงเบอร์ 8 ทั้งหมด และเหลือค้างอยู่บนตะแกรงเบอร์ 16 ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ทรายที่ใช้ได้ผลดีควรมีค่าความละเอียด (fineness modulus) ระหว่าง 1.2 ถึง 2.0 บางกรณีอาจต้องใช้สารหน่วงการก่อตัวผสมเข้าไปด้วย เพื่อช่วยหน่วงไม่ให้ส่วนผสมแข็งตัวในท่อ และช่วยให้ของแข็งในส่วนผสมลอยตัว การซ่อมในบริเวณกว้างๆ จะต้องจัดให้มีทางออกของมอร์ต้าทุกๆ ระยะ 1.50 เมตร การอัดมอร์ต้าจะต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง และเริ่มตากจุดที่ต่ำไปหาจุดที่สูง
วิธีซ่อมให้ใช้หินที่สะอาดและมีความลดหลั่นพอดี อันให้แน่นบริเวณที่จะซ่อมโดยให้มีช่องว่าง (void) ประมาณ 35 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และมีแบบปิดกั้น แล้วจะต้องทำให้หินเปียกหรือถ้าทำให้จมอยู่ใต้น้ำได้จะยิ่งดี จากนั้นจึงปั๊มอัดมอร์ต้าเข้าไประหว่างช่องว่างของหิน โดยใช้แรงดันต่ำ มอร์ต้าที่อัดเข้าไปจะไปไล่น้ำออกและเข้าไปแทนที่ ทำให้คอนกรีตแน่นและมีหินผสมอยู่ในปริมาณสูง จากการทดลองพบว่าคอนกรีตชนิดนี้หดตัวน้อยกว่าคอนกรีตธรรมดา ซึ่งใช้ปูนซีเมนต์เท่ากัน
จึงสามารถช่วยให้การแตกร้าวอันเนื่องมาจากการหดตัวลดลงและสามารถยึดเหนี่ยวกับคอนกรีตเก่าได้ดี แม้ว่าคอนกรีตชนิดนี้จะสร้างกำลังขึ้นช้ากว่าคอนกรีตธรรมดาก็ตาม แต่จะมีกลังเท่ากันเมื่อมีอายุครบ 90 วันไปแล้ว ข้อควรระวังก็คือแบบจะต้องมั่นคงไม่มีรอยรั่วและด้านบนของแบบจะต้องมีช่องให้อากาศถ่ายเทออกได้
ทรายที่ใช้ผสมมอร์ต้าจะต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับทรายที่ใช้ทำคอนกรีต ควรมีขนาดผ่านตะแกรงเบอร์ 8 ทั้งหมด และเหลือค้างอยู่บนตะแกรงเบอร์ 16 ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ทรายที่ใช้ได้ผลดีควรมีค่าความละเอียด (fineness modulus) ระหว่าง 1.2 ถึง 2.0 บางกรณีอาจต้องใช้สารหน่วงการก่อตัวผสมเข้าไปด้วย เพื่อช่วยหน่วงไม่ให้ส่วนผสมแข็งตัวในท่อ และช่วยให้ของแข็งในส่วนผสมลอยตัว การซ่อมในบริเวณกว้างๆ จะต้องจัดให้มีทางออกของมอร์ต้าทุกๆ ระยะ 1.50 เมตร การอัดมอร์ต้าจะต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง และเริ่มตากจุดที่ต่ำไปหาจุดที่สูง
