คอนกรีต คือวัสดุสำคัญอย่างหนึ่งที่ใช้ในการก่อสร้างบ้าน อาคารหรือสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ต่างก็ต้องใช้คอนกรีตเป็นส่วนผสมด้วยกันทั้งนั้น โดยคอนกรีตจะประกอบไปด้วยส่วนผสม 2 อย่างด้วยกัน คือ วัสดุประสานและวัสดุผสม
สำหรับวัสดุประสาน คือ ปูน ซีเมนต์และน้ำ ส่วนวัสดุผสม คือ หิน ทราย กรวด และสารผสมเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ทำให้คอนกรีตคงสภาพเป็นของเหลวได้นานพอที่จะนำไปใช้งานต่อไป และเมื่อคอนกรีตแข็งตัวเต็มที่ จะมีความแข็งแรงมาก สามารถรับน้ำหนักได้ดี แต่ทั้งนี้ ความแข็งแรงทนทานของคอนกรีตก็จะขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของมันด้วย
และสำหรับอัตราส่วนโดยทั่วไปของคอนกรีต จะประกอบไปด้วย มวลรวมของทรายและหิน 70% ปูนซีเมนต์ 11% ฟองอากาศ 2% และน้ำ 17% เมื่อนำมาผสมรวมกันจะคงสภาพเป็นของเหลวอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง และเรียกคอนกรีตในช่วงนี้ว่า “คอนกรีตสด”
ซึ่งสำหรับ คอนกรีตสด นั้นมีคุณสมบัติที่สำคัญคือ สามารถใช้งานได้ทันที แต่ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อคอนกรีตสด ก็จะต่างกันไปตามส่วนผสมของคอนกรีตที่ใช้ และอิทธิพลอื่นๆ จากสภาพแวดล้อม การจะนำคอนกรีตมาใช้งาน จึงควรผสมโดยผู้เชี่ยวชาญในอัตราส่วนที่เหมาะสม
ส่วนคอนกรีตที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบันนี้ก็คือ “คอนกรีตผสมเสร็จ” เนื่องจากเป็นคอนกรีตที่ได้รับการผสมตามสัดส่วนที่ต้องการจนเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ที่โรงงาน และจะถูกจัดส่งต่อไปยังหน่วยงานก่อสร้างต่างๆ โดยรถผสมคอนกรีต ในสภาพที่ยังสด ไม่แข็งตัว และพร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องมาผสมเองให้เสียเวลา จึงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับงานก่อสร้างที่มีเวลาจำกัด มีจำนวนคนงานน้อยและเป็นงานที่ต้องการใช้คอนกรีตคุณภาพสูง
ในส่วนของขบวนการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จที่ได้มาตรฐาน จะเริ่มจากการตรวจสอบคุณสมบัติของส่วนผสมต่างๆก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็น หินหรือทราย ก็จำเป็นต้องเลือกจากแหล่งที่มีคุณภาพดีมาจัดเก็บเป็นกอง ไม่ให้ผสมกัน ส่วนปูนซีเมนต์และน้ำยาผสมคอนกรีตก็ต้องถูกบรรจุเก็บไว้อย่างมิดชิด ก่อนจะถูกลำเลียงนำมาผสมกันในขั้นตอนต่อไป
เมื่อเข้าสู่ขบวนการผลิต จะนำหิน ทราย ปูนและซีเมนต์ มาชั่งให้ได้น้ำหนักสัดส่วนและน้ำหนักตามต้องการ โดยคำนวณสภาพความชื้นของหินทรายด้วยทุกครั้ง เพราะหินทรายที่ใช้อาจมีความชื้นปะปนอยู่ และไม่ได้อยู่ในสภาพที่แห้งเสมอไป ดังนั้นจึงต้องมีการปรับน้ำหนักของหินทรายและน้ำที่ใช้ให้เหมาะสมก่อนทุกครั้ง
ส่วนองค์ประกอบของน้ำและน้ำยาผสมคอนกรีต จะใช้เครื่องวัดปริมาตรในการตวง ก่อนนำเข้าไปผสมกันในเครื่องตามเวลาที่กำหนดด้วยระบบควบคุมอัตโนมัติ เพื่อความเที่ยงตรง สม่ำเสมอและรวดเร็ว จากนั้น เมื่อผสมคอนกรีตเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะถูกลำเลียงไปยังหน่วยงานก่อสร้างต่างๆ ต่อไป
ลักษณะเด่นของคอนกรีตผสมเสร็จ ส่วนใหญ่จะมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานของงานก่อสร้างทั่วๆ ไป และมีการควบคุมสัดส่วนองค์ประกอบด้วยวิธีการชั่งน้ำหนักทุกครั้ง จึงทำให้ได้ส่วนผสมของคอนกรีตที่แม่นยำและสม่ำเสมอ โดยทั่วไปแล้วจะสามารถแบ่งออกตามวิธีการผลิตได้เป็น 3 ชนิด คือ
1.คอนกรีตผสมเสร็จจากหน่วยผลิต เป็นคอนกรีตที่ผสมจนเสร็จในเครื่องผสมแบบอยู่กับที่ และถูกส่งไปยังรถผสมหรือรถกวนที่ใช้ความเร็วรอบหมุนเท่ากับรอบกวนของคอนกรีต
2.คอนกรีตที่ผสมเสร็จบางส่วนจากหน่วยผลิต เป็นคอนกรีตที่ถูกผสมเพียงบางส่วนเท่านั้นในเครื่องผสมแบบอยู่กับที่ และจะถูกผสมจนเสร็จพร้อมใช้งานในรถผสมคอนกรีต
3.คอนกรีตที่ผสมเสร็จด้วยรถผสม เป็นคอนกรีตที่ผสมตั้งแต่ต้นจนเสร็จเรียบร้อยในรถผสมคอนกรีตเลย
1.ได้คอนกรีตที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่งานก่อสร้างต้องการ
2.ควบคุมปริมาณส่วนผสมต่างๆ ของคอนกรีตด้วยมิเตอร์คุณภาพสูง จึงได้คอนกรีตผสมเสร็จที่มีสัดส่วนถูกต้องแม่นยำและสม่ำเสมอ
3.มีกำลังการผลิตสูง เนื่องจากโรงงานคอนกรีตส่วนใหญ่สามารถผลิตคอนกรีตได้มากถึง 30-150 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จึงช่วยให้การทำงาน ดำเนินต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด และลดจำนวนคนงานที่มีหน้าที่ผสมคอนกรีตลงได้ ถือว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างคนไปด้วยในตัว
4.เหมาะกับหน่วยงานก่อสร้างที่มีพื้นที่น้อย ไม่มีบริเวณกว้างพอสำหรับกองหินหรือกองทราย
5.เหมาะกับงานก่อสร้างที่จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่เทคอนกรีตอยู่เรื่อยๆ เช่น งานก่อสร้างถนนหรือคลอง
6.สามารถแก้ปัญหางานก่อสร้างที่จำเป็นต้องใช้คอนกรีตครั้งละมากๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเตรียมเอง
7.สามารถสั่งจากทางโรงงานมาได้ทุกเวลา เหมาะกับงานก่อสร้างที่ไม่ได้เทคอนกรีตติดๆ กันทุกวัน แต่อาจเว้นระยะเวลาห่างกันหลายวัน ซึ่งถือว่าเป็นการประหยัดต้นทุนได้มากกว่าการซื้อส่วนผสมมาตุนเก็บไว้เอง
8.แม้คอนกรีตผสมเสร็จจะมีราคาสูงกว่าคอนกรีตที่ผสมด้วยตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้างได้มาก และได้คอนกรีตที่มีคุณภาพดีอย่างแน่นอน
จากข้อดีทั้งหมดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมคอนกรีตแบบผสมเสร็จ จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหน่วยงานก่อสร้างทั่วๆ ไป เพราะให้ทั้งความสะดวกสบายและอาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิมด้วย เนื่องจากไม่ต้องจ้างคนงานสำหรับผสมคอนกรีต หรือเทคอนกรีต ไม่ต้องหาพื้นที่ในการเก็บวัสดุสำหรับผสมและไม่จำเป็นต้องมีแหล่งน้ำสะอาดสำหรับใช้ผสมคอนกรีต บริเวณก่อสร้างจึงดูสะอาดไม่เลอะเทอะ ทำงานเสร็จเร็ว งบไม่บานปลาย และมีส่วนช่วยให้งานก่อสร้างเสร็จลงได้อย่างสวยงาม
ขอบคุณที่มา wannicha.com
สำหรับวัสดุประสาน คือ ปูน ซีเมนต์และน้ำ ส่วนวัสดุผสม คือ หิน ทราย กรวด และสารผสมเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ทำให้คอนกรีตคงสภาพเป็นของเหลวได้นานพอที่จะนำไปใช้งานต่อไป และเมื่อคอนกรีตแข็งตัวเต็มที่ จะมีความแข็งแรงมาก สามารถรับน้ำหนักได้ดี แต่ทั้งนี้ ความแข็งแรงทนทานของคอนกรีตก็จะขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของมันด้วย
และสำหรับอัตราส่วนโดยทั่วไปของคอนกรีต จะประกอบไปด้วย มวลรวมของทรายและหิน 70% ปูนซีเมนต์ 11% ฟองอากาศ 2% และน้ำ 17% เมื่อนำมาผสมรวมกันจะคงสภาพเป็นของเหลวอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง และเรียกคอนกรีตในช่วงนี้ว่า “คอนกรีตสด”
ซึ่งสำหรับ คอนกรีตสด นั้นมีคุณสมบัติที่สำคัญคือ สามารถใช้งานได้ทันที แต่ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อคอนกรีตสด ก็จะต่างกันไปตามส่วนผสมของคอนกรีตที่ใช้ และอิทธิพลอื่นๆ จากสภาพแวดล้อม การจะนำคอนกรีตมาใช้งาน จึงควรผสมโดยผู้เชี่ยวชาญในอัตราส่วนที่เหมาะสม
ส่วนคอนกรีตที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบันนี้ก็คือ “คอนกรีตผสมเสร็จ” เนื่องจากเป็นคอนกรีตที่ได้รับการผสมตามสัดส่วนที่ต้องการจนเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ที่โรงงาน และจะถูกจัดส่งต่อไปยังหน่วยงานก่อสร้างต่างๆ โดยรถผสมคอนกรีต ในสภาพที่ยังสด ไม่แข็งตัว และพร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องมาผสมเองให้เสียเวลา จึงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับงานก่อสร้างที่มีเวลาจำกัด มีจำนวนคนงานน้อยและเป็นงานที่ต้องการใช้คอนกรีตคุณภาพสูง
ในส่วนของขบวนการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จที่ได้มาตรฐาน จะเริ่มจากการตรวจสอบคุณสมบัติของส่วนผสมต่างๆก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็น หินหรือทราย ก็จำเป็นต้องเลือกจากแหล่งที่มีคุณภาพดีมาจัดเก็บเป็นกอง ไม่ให้ผสมกัน ส่วนปูนซีเมนต์และน้ำยาผสมคอนกรีตก็ต้องถูกบรรจุเก็บไว้อย่างมิดชิด ก่อนจะถูกลำเลียงนำมาผสมกันในขั้นตอนต่อไป
เมื่อเข้าสู่ขบวนการผลิต จะนำหิน ทราย ปูนและซีเมนต์ มาชั่งให้ได้น้ำหนักสัดส่วนและน้ำหนักตามต้องการ โดยคำนวณสภาพความชื้นของหินทรายด้วยทุกครั้ง เพราะหินทรายที่ใช้อาจมีความชื้นปะปนอยู่ และไม่ได้อยู่ในสภาพที่แห้งเสมอไป ดังนั้นจึงต้องมีการปรับน้ำหนักของหินทรายและน้ำที่ใช้ให้เหมาะสมก่อนทุกครั้ง
ส่วนองค์ประกอบของน้ำและน้ำยาผสมคอนกรีต จะใช้เครื่องวัดปริมาตรในการตวง ก่อนนำเข้าไปผสมกันในเครื่องตามเวลาที่กำหนดด้วยระบบควบคุมอัตโนมัติ เพื่อความเที่ยงตรง สม่ำเสมอและรวดเร็ว จากนั้น เมื่อผสมคอนกรีตเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะถูกลำเลียงไปยังหน่วยงานก่อสร้างต่างๆ ต่อไป
ลักษณะเด่นของคอนกรีตผสมเสร็จ ส่วนใหญ่จะมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานของงานก่อสร้างทั่วๆ ไป และมีการควบคุมสัดส่วนองค์ประกอบด้วยวิธีการชั่งน้ำหนักทุกครั้ง จึงทำให้ได้ส่วนผสมของคอนกรีตที่แม่นยำและสม่ำเสมอ โดยทั่วไปแล้วจะสามารถแบ่งออกตามวิธีการผลิตได้เป็น 3 ชนิด คือ
1.คอนกรีตผสมเสร็จจากหน่วยผลิต เป็นคอนกรีตที่ผสมจนเสร็จในเครื่องผสมแบบอยู่กับที่ และถูกส่งไปยังรถผสมหรือรถกวนที่ใช้ความเร็วรอบหมุนเท่ากับรอบกวนของคอนกรีต
2.คอนกรีตที่ผสมเสร็จบางส่วนจากหน่วยผลิต เป็นคอนกรีตที่ถูกผสมเพียงบางส่วนเท่านั้นในเครื่องผสมแบบอยู่กับที่ และจะถูกผสมจนเสร็จพร้อมใช้งานในรถผสมคอนกรีต
3.คอนกรีตที่ผสมเสร็จด้วยรถผสม เป็นคอนกรีตที่ผสมตั้งแต่ต้นจนเสร็จเรียบร้อยในรถผสมคอนกรีตเลย
ส่วนข้อดีของคอนกรีตผสมเสร็จ ที่ทำให้เป็นที่นิยมกันในงานก่อสร้างต่างๆ มีดังต่อไปนี้
1.ได้คอนกรีตที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่งานก่อสร้างต้องการ
2.ควบคุมปริมาณส่วนผสมต่างๆ ของคอนกรีตด้วยมิเตอร์คุณภาพสูง จึงได้คอนกรีตผสมเสร็จที่มีสัดส่วนถูกต้องแม่นยำและสม่ำเสมอ
3.มีกำลังการผลิตสูง เนื่องจากโรงงานคอนกรีตส่วนใหญ่สามารถผลิตคอนกรีตได้มากถึง 30-150 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จึงช่วยให้การทำงาน ดำเนินต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด และลดจำนวนคนงานที่มีหน้าที่ผสมคอนกรีตลงได้ ถือว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างคนไปด้วยในตัว
4.เหมาะกับหน่วยงานก่อสร้างที่มีพื้นที่น้อย ไม่มีบริเวณกว้างพอสำหรับกองหินหรือกองทราย
5.เหมาะกับงานก่อสร้างที่จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่เทคอนกรีตอยู่เรื่อยๆ เช่น งานก่อสร้างถนนหรือคลอง
6.สามารถแก้ปัญหางานก่อสร้างที่จำเป็นต้องใช้คอนกรีตครั้งละมากๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเตรียมเอง
7.สามารถสั่งจากทางโรงงานมาได้ทุกเวลา เหมาะกับงานก่อสร้างที่ไม่ได้เทคอนกรีตติดๆ กันทุกวัน แต่อาจเว้นระยะเวลาห่างกันหลายวัน ซึ่งถือว่าเป็นการประหยัดต้นทุนได้มากกว่าการซื้อส่วนผสมมาตุนเก็บไว้เอง
8.แม้คอนกรีตผสมเสร็จจะมีราคาสูงกว่าคอนกรีตที่ผสมด้วยตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้างได้มาก และได้คอนกรีตที่มีคุณภาพดีอย่างแน่นอน
จากข้อดีทั้งหมดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมคอนกรีตแบบผสมเสร็จ จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหน่วยงานก่อสร้างทั่วๆ ไป เพราะให้ทั้งความสะดวกสบายและอาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิมด้วย เนื่องจากไม่ต้องจ้างคนงานสำหรับผสมคอนกรีต หรือเทคอนกรีต ไม่ต้องหาพื้นที่ในการเก็บวัสดุสำหรับผสมและไม่จำเป็นต้องมีแหล่งน้ำสะอาดสำหรับใช้ผสมคอนกรีต บริเวณก่อสร้างจึงดูสะอาดไม่เลอะเทอะ ทำงานเสร็จเร็ว งบไม่บานปลาย และมีส่วนช่วยให้งานก่อสร้างเสร็จลงได้อย่างสวยงาม
ขอบคุณที่มา wannicha.com